ข้อสอบภาษาต่างประเทศมัธยมศึกษาวิจัยในชั้นเรียนวิทยฐานะศึกษาต่อสื่อการสอนแจกไฟล์

รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 – C2 6 ระดับ

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 – C2 6 ระดับ

มาแล้ว รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 – C2 6 ระดับ ขอกันมาหลังไมค์เยอะมากซึ่งพี่บอกไปแล้วว่าไม่แนะนำให้ท่องเพราะมันเยอะมากเกินความจำเป็นที่จะต้องรู้ทุกคำแต่แนะนำให้ศึกษาศัพท์ต่าง ๆ จากข่าวหรือสื่อต่าง ๆ รวมถึงศึกษาจากข้อสอบและแบบฝึกหัดต่าง ๆ จะดีกว่ามากนะครับเนื่องจากจะช่วยให้เห็นบริบทการใช้จริงด้วยส่วนไฟล์เหล่านี้ดูให้พอเห็นภาพรวมของคำศัพท์แต่ละระดับก็พอนะครับ และไฟล์เหล่านี้ไม่ได้มีศัพท์ครบทุกคำในแต่ละระดับแต่เป็นคำศัพท์เพียงบางส่วนเท่านั้น อย่างเช่นคำว่า turbulent หรือ severity ระดับ C2 ที่มีในข้อสอบ GAT Eng ปีล่าสุดก็ไม่มีอยู่ในไฟล์ลิสต์คำศัพท์เหล่านี้คำศัพท์ที่ดูเหมือนง่ายบางคำอาจจะมีอยู่ทั้งในระดับเริ่มต้นและในระดับสูงหรือระดับชำนาญ เนื่องจากคำศัพท์คำนั้นมีความหมายอื่นนอกเหนือจากที่คนส่วนมากรู้กันทั่วไป อย่างเช่น age ที่มีความหมายว่า อายุหรือระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ (TIME SPENT ALIVE) มีระดับเพียงแค่ A1 แต่ age ที่มีความหมายว่า เก่า/แก่/ตามอายุ (BEING OLD) มีระดับสูงถึง C2 หรือระดับสูงสุด ดังนั้นหากพบเจอคำที่ดูเหมือนง่ายในคำศัพท์ระดับสูงนั่นแปลว่าศัพท์คำนั้นมีความหมายอื่นที่อาจไม่รู้

Common European Framework of Reference for Languages คือมาตรฐานสากลที่ใช้อธิบายระดับความเชี่ยวชาญทางภาษา ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในทวีปยุโรป และมีการยอมรับเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก EF SET เป็นมาตรฐานการทดสอบภาษาอังกฤษเดียวที่วัดระดับทักษะทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับชำนาญ โดยอ้างอิงตามกรอบ แบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับมาตรฐานอื่น ๆ สามารถประเมินระดับความเชี่ยวชาญได้บ้าง แต่ไม่ใช่ระดับทั้งหมด

รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 - C2 6 ระดับ
รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 – C2 6 ระดับ

CEFR คืออะไร

คือแนวทางในการอธิบายว่าคุณสามารถพูดและเข้าใจภาษาต่างชาติได้ดีระดับใด โดยมีเกณฑ์การวัดะดับภาษามากมายที่มีวัตถุประสงค์คล้ายกัน ได้แก่ American Council on the Teaching of Foreign Languages Proficiency Guidelines (ACTFL) ,Canadian Language Benchmarks (CLB) และ Interagency Language Roundtable scale (ILR) อย่างไรก็ตามไม่ได้ยึดติดกับแบบทดสอบภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นพิเศษ

มาตรฐานยุโรปและได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้กับภาษายุโรปใดก็ตาม ดังนั้นจึงสามารถใช้ในการอธิบายทักษะภาษาอังกฤษ ทักษะภาษาเยอรมัน หรือทักษะภาษาเอสโตเนียของคุณ (หากว่าคุณมีทักษะเหล่านี้)

ทำไมจึงมีความสำคัญ

ในยุโรปได้เพิ่มมาตรฐานการอธิบายระดับความเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศของคุณ โดยเฉพาะในการศึกษา หากคุณเรียนมากกว่าหนึ่งภาษา ที่ยุโรปสามารถใช้แสดงระดับภาษาที่มากกว่าสองภาษาในประวัติย่อของคุณเป็นกรอบมาตรฐานทั่วทั้งยุโรปในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยและสามารถใช้ได้โดยไม่มีข้อจำกัด

อย่างไรก็ตาม ในเชิงขององค์กรไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวาง หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ในประวัติย่อสำหรับเหตุผลด้านการทำงาน วิธีที่ดีที่สุดคือการระบุเกณฑ์บ่งชี้ระดับทักษะ แสดงคะแนนทดสอบมาตรฐ

ใครเป็นผู้ใช้ผลการทดสอบ

ได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางสำหรับการสอนภาษาในทวีปยุโรป รวมทั้งการศึกษาทั่วไปและโรงเรียนสอนภาษาเอกชน ในหลายประเทศใช้แทนระบบการวัดระดับที่เคยใช้ในการสอนภาษาต่างประเทศ กระทรวงการศึกษาในยุโรปส่วนใหญ่ระบุเป้าหมายที่อ้างอิงตาม อย่างชัดเจนสำหรับนักเรียนทุกคนที่สำเร็จระดับมัธยม เช่น ระดับ B2 สำหรับภาษาต่างประเทศภาษาแรก ระดับ B1 สำหรับภาษาต่างประเทศภาษาที่สอง สำหรับการหางานในยุโรปจะใช้คะแนนการทดสอบมาตรฐาน เช่น TOEIC เพื่อกำหนดระดับภาษาอังกฤษการใช้นอกยุโรปยังอยู่ในขอบเขตที่จำกัด อย่างไรก็ตาม ประเทศในเอเชียและลาตินอเมริกาบางส่วนได้เริ่มนำไปปรับใช้ในระบบการศึกษาของตนบ้างแล้ว

วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาระดับ ของคุณคือเข้ารับการทดสอบที่มีมาตรฐานและได้รับการออกแบบมาอย่างดี EF SET คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ เนื่องจากสามารถเข้าถึงได้ฟรีทางออนไลน์และเป็นแบบทดสอบแรกที่มาพร้อมกับเกณฑ์คุณจะมีเวลา 50 นาที ในการทำแบบทดสอบให้เสร็จเพื่อค้นหาระดับ CEFR ของคุณ

การค้นหาระดับ ของคุณในภาษาอื่นของยุโรป แบบทดสอบที่นิยมมากที่สุดส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเกณฑ์ CEFR โดยขึ้นอยู่กับภาษา คุณต้องทำแบบทดสอบที่แตกต่างกัน คุณสามารถตรวจสอบกับหน่วยงานทางการที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับภาษายุโรป ยกตัวอย่างเช่น Alliance Française สำหรับภาษาฝรั่งเศส Instituto Cervantes สำหรับภาษาสเปน หรือ Goethe Institute สำหรับภาษาเยอรมัน โดยทั่วไปจะไม่นิยมใช้ระดับ CEFR เพื่อบ่งชี้ระดับภาษาที่ไม่ใช่ภาษายุโรป

นักเรียนจำนวนมากได้วิจารณ์เกี่ยวกับความก้างของระดับของ CEFR ใน 6 ระดับนี้ประกอบด้วยทักษะและความสามารถมากมาย นักเรียนที่เพิ่งถึงระดับ B1 ค่อนข้างที่จะตามหลังนักเรียนที่เกือบจะผ่านระดับ B2 แต่นักเรียนทั้งสองจะได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ B1 เหมือนกัน ในทางปฏิบัติ ผู้สอนต้องแยกแต่ละระดับของทั้ง 6 ระดับ ออกเป็นระดับย่อย เพื่อออกแบบบทเรียนและการประเมิน

หลายประเทศนอกยุโรปมีแบบทดสอบการประเมินที่นำมาปรับใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยไม่เห็นความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงขอบเขตของระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ได้อยู่ในแนวทางเดียวกับแบบทดสอบการประเมินปัจจุบัน ส่วนใหญ่แบบทดสอบการประเมินมาตรฐานภาษาอังกฤษที่ปรับใช้กันอย่างกว้างขวางไม่ได้มาพร้อมกับเกณฑ์ CEFR

การฝึกภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน

นักเรียนที่ทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับเริ่มต้นจะมีพื้นฐานด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คุณกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาคำศัพท์และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหัวข้อในชีวิตประจำวันที่ไม่ซับซ้อน

เป้าหมายของคุณคือทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการฝึกฝนคือกุญแจสำคัญ การอดทนเป็นสิ่งจำเป็นเพราะการเรียนรู้ภาษาใหม่ต้องใช้เวลา ด้านล่างเป็นแนวทางบางส่วนในการฝึกฝนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น

  • เขียนรายการซื้อของเป็นภาษาอังกฤษหรือค้นหา (และสร้างขึ้นมา) สูตรอาหารจานโปรดในหนังสือทำอาหารที่เป็นภาษาอังกฤษ ใช้พจนานุกรมเพื่อค้นหาคำศัพท์ที่คุณไม่คุ้นเคยและเพิ่มคำศัพท์ไปยังรายการสิ่งที่ต้องเรียนรู้ รายการดังกล่าวคือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้เริ่มต้นมีความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ
  • จดบันทึกประจำวันหรือไดอารีเพื่อบันทึกกิจกรรมประจำวันของคุณ การเขียนประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานไม่กี่ประโยคทุกวันและการมองหาคำศัพท์ที่ไม่รู้จักจะช่วยสร้างพื้นฐานคำศัพท์ของคุณได้เป็นอย่างดี
  • ชมภาพยนตร์เรื่องโปรดหรือรายการทีวีที่เป็นภาษาอังกฤษ และเปิดคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อให้คุณสามารถอ่านตามได้ การรู้เนื้อเรื่องจะทำให้คุณมีสมาธิในการฟังและทำความเข้าใจกับบทสนทนาภาษาอังกฤษ
  • คุยกับผู้อื่นเพื่อให้คุณสามารถฝึกฝนได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ แม้ว่าบุคคลนั้นจะไม่ใช่ผู้พูดที่เป็นเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้นจะเกี่ยวกับการลองผิดลองถูก ดังนั้นการพูดคุยเกี่ยวกับสภาพอากาศ สถานที่พักผ่อนที่ชื่นชอบ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล้วนเป็นการฝึกบทสนทนาที่จะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจและเพิ่มทักษะพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษของคุณ
  • ทำแบบทดสอบ EF SET—ซึ่งสามารถทำได้หลายครั้งเท่าที่คุณต้องการ การทดสอบจะปรับเปลี่ยนไปตามระดับภาษาอังกฤษของคุณ อีกทั้งยังช่วยวัดระดับทักษะการฟังและการอ่านของคุณ ตลอดจนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐานและทักษะด้านคำศัพท์

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษระดับกลางและระดับกลางสูง

นักเรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับกลางและระดับกลางสูงจะมีความเข้าใจหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงหรือเป็นรูปธรรมมากกว่าผู้เริ่มต้น แต่ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากก่อนที่คุณจะสามารถแสดงออกความรู้สึกและเข้าใจความคิดที่ซับซ้อนได้ เมื่อทักษะอยู่ที่ระดับกลางและระดับกลางสูง คุณจะมีความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น และคุณสามารถทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการเรียนรู้ใดก็ตาม ซึ่งการฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนระดับกลางสูงเพื่อยกระดับทักษะให้เพิ่มขึ้น

เป้าหมายของคุณเมื่ออยู่ในระดับกลางคือการทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้งานภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นความสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่คุณวางแผนจะทำงาน นี่คือกลยุทธ์บางส่วนสำหรับการฝึกฝนภาษาอังกฤษของคุณแม้ว่าทักษะของคุณได้มาถึงระดับกลางสูงแล้ว

เปลี่ยนการตั้งค่าในอีเมลและบัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของคุณเป็นภาษาอังกฤษตลอดจนอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ เพื่อบังคับให้คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทางเลือก

  • อ่านสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจ ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นคือการอ่านนิยายสำหรับเยาวชน หรือข่าวในหนังสือพิมพ์รายวัน สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้สำหรับนักเรียนที่มีทักษะระดับกลางสูง คุณอาจจะต้องค้นหาความหมายของคำศัพท์อยู่บ้าง ถ้าคุณกำลังศึกษาหรือทำงานด้านการเงินระหว่างประเทศ ให้เริ่มอ่าน Financial Times หรือ Wall Street Journal จดบันทึกและวางแผนการแสดงความคิดเห็นหรือแนวคิดของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอ่าน
  • ฟังหนังสือเสียงและพอดแคสต์เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสนใจหรือเนื้อหาที่คุณเชี่ยวชาญ กดหยุดเพื่อจดบันทึกคำหรือประโยคที่คุณไม่เข้าใจ เน้นการฟังเสียงและคำ หนังสือบางเล่มและพอดแคสต์เป็นสิ่งที่นักเรียนระดับกลางสามารถเข้าถึงได้ ยกตัวอย่างเช่น พอดแคสต์รายงานข่าวและนิยายพอดแคสต์จะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่าเรื่องตลก
  • สนุกไปกับคาราโอเกะ! เรียนรู้เนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่คุณชอบและร้องออกมาให้คนอื่นฟัง การค้นหาเนื้อเพลงสามารถทำได้ง่าย
  • หาเพื่อนร่วมงานและช่วยกันเตรียมสถานการณ์จำลองการสัมภาษณ์งานหรือการนำเสนองานเป็นภาษาอังกฤษ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในการนำเสนอตัวเอง ประสบการณ์ที่ผ่านมา การศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน เป้าหมายและเส้นทางอาชีพของคุณ ทักษะภาษาอังกฤษระดับกลางสูงช่วยให้คุณสามารถทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นการฝึกฝนนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ
  • ทำแบบทดสอบ EF SET—โดยสามารถทำซ้ำได้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ แบบทดสอบได้รับการประยุกต์ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มีทักษะเกือบถึงระดับกลางหรือทักษะอยู่ที่ปลายระดับกลางสูง แบบทดสอบจะวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่วัดระดับทักษะการฟังและการอ่านของคุณ ตลอดจนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐานและคำศัพท์

การสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษคือกระบวนการที่มีความต่อเนื่อง แม้แต่ในระดับสูงก็ยังมีสิ่งใหม่ ๆ ที่ต้องเรียนรู้ การใช้ภาษาอังกฤษทุกวันจะทำให้มั่นใจว่าคุณได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษระดับสูงอยู่เสมอและสามารถรักษาระดับความคล่องแคล่วเอาไว้ได้ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าของบริษัท เจรจาต่อรองธุรกิจหรือจัดกิจกรรมที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ คุณต้องตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเองและใช้สิ่งนั้นเป็นแรงบันดาลใจในการเพิ่มระดับทักษะภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วอยู่แล้ว

นี่คือคำแนะนำบางส่วนที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ เพื่อให้สามารถรักษาทักษะภาษาอังกฤษระดับสูงและมีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษ

  • จำไว้เสมอว่าภาษาอังกฤษมีสำเนียงอยู่มากมาย เช่น ภาษาอังกฤษแบบอเมริกา ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย ภาษาอังกฤษแบบอินเดีย เป็นต้น ในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ คุณต้องท้าทายตัวเองโดยการฝึกฟังสำเนียงต่าง ๆ หรือใช้เวลาอาศัยอยู่ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษที่คุณไม่คุ้นเคย โดยการเข้าสังคม เรียนในสถานศึกษาหรืออยู่ในสถานที่ทำงานที่ใช้เฉพาะภาษาอังกฤษ และพยายามอย่างเต็มที่ในการฟังคำทุกคำและเข้าใจความแตกต่างของสำเนียง
  • รักษาทักษะภาษาอังกฤษระดับสูงโดยการชมภาพยนตร์ ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุจากหลายประเทศโดยไม่มีคำบรรยาย คุยโทรศัพท์ด้วยภาษาอังกฤษ พบปะและใช้เวลากับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่พูดภาษาอังกฤษ ก้าวเข้าสู่การสนทนาแบบมืออาชีพดีกว่าที่จะนั่งฟังอยู่ข้างหลัง
  • ฟังอย่างละเอียดและพยายามจับใจความมากกว่าความหมายพื้นฐาน ฟังบทสนทนาของผู้พูดภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วเกี่ยวกับวิธีแสดงอารมณ์ การแบ่งปันความผิดหวัง และเริ่มปรับตัวเข้ากับคำพูดของผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว คุณจะพบว่าทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาขึ้นทุกวัน
  • แม้ว่าระดับภาษาอังกฤษของคุณจะอยู่ในระดับสูง แต่คุณต้องคอยประเมินภาษาอังกฤษระดับสูงของคุณอยู่ตลอดเวลา โดยการ ทำแบบทดสอบ EF SETซึ่งเป็นแบบทดสอบที่วัดผลทุกได้ระดับตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงเชี่ยวชาญ และมีความแม่นยำในการตรวจสอบระดับภาษาอังกฤษของคุณ

รวมคำศัพท์สำหรับท่อง CEFR ระดับ A1 – C2 6 ระดับ

ระดับชื่อระดับคำอธิบายคลิกเพื่อดาวน์โหลด
A1
Beginner
ระดับของผู้เริ่มต้นดาวน์โหลด
A2Elementary
ระดับที่สามารถเข้าใจ ประโยคคุ้นเคยในชีวิตประจำวันดาวน์โหลด
B1Intermediate
ระดับปานกลาง ใช้ภาษาได้ดี แต่อาจจะไม่คล่องมากดาวน์โหลด
B2Upper-Intermediateระดับปานกลางขั้นสูง ใช้ภาษาได้อย่างดี แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมได้ดาวน์โหลด
C1Advanced
ใช้ภาษาได้ดีมาก แสดงความคิดเห็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพดาวน์โหลด
C2Proficient
ใช้ภาษาได้ดีมากเทียบเท่าเจ้าของภาษา สื่อสารได้มีประสิทธิภาพมาก และมีความมั่นใจในการใช้ภาษา คล่องแคล่วแม้ว่าจะเป็น บริบทคำพูดที่มีความซับซ้อนดาวน์โหลด

ระดับเริ่มต้น (EF SET 1 – 30)

ภาษาอังกฤษระดับ A1 คือภาษาอังกฤษระดับแรกตามกรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ CEFR (Common European Framework of Reference) การกำหนดระดับของภาษาที่แตกต่างกันได้รับการเขียนขึ้นโดยสภายุโรป (Council of Europe) โดยทั่วไปเรียกระดับนี้ว่า “ระดับเริ่มต้น” และเป็นชื่อระดับอย่างเป็นทางการใน CEFR ที่ใช้โดย EF SET ในทางปฏิบัติสามารถกำหนดระดับภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับต่ำกว่า A1 (Pre-A1) ซึ่งนักเรียนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษหรือผู้ที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้นมาก่อนจะอยู่ที่ระดับ Pre-A1

สิ่งที่สามารถทำได้เมื่อภาษาอังกฤษของคุณอยู่ในระดับ A1

ภาษาอังกฤษระดับ A1 พอเพียงสำหรับการโต้ตอบอย่างง่าย ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ ระดับ A1 อาจไม่เพียงพอสำหรับจุดประสงค์ทางวิชาการหรือความเชี่ยวชาญอื่น ๆ

ตามเกณฑ์มาตรฐาน CEFR อย่างเป็นทางการ ผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ A1 จะสามารถสื่อสารได้ดังต่อไปนี้

  1. สามารถเข้าใจและโต้ตอบในสิ่งที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน รวมถึงสามารถใช้ประโยคพื้นฐานเพื่อสื่อสารถึงความต้องการที่เป็นรูปธรรม
  2. สามารถแนะนำตัวเองและคนอื่น สามารถถามและตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนบุคคลได้ เช่น สถานที่อยู่อาศัย คนที่รู้จัก และสิ่งของที่มี
  3. สามารถโต้ตอบกับผู้อื่นได้ ในกรณีที่ผู้อื่นพูดอย่างช้า ๆ ชัดเจน และพร้อมที่จะช่วยเหลือ

ภาษาอังกฤษระดับ A1 – คำนิยามและการทดสอบ

การกำหนดระดับการสื่อสารอย่างเป็นทางการถูกแยกย่อยออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการฝึกสอน การแยกย่อยทักษะอย่างละเอียดนี้สามารถช่วยประเมินระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณ หรือช่วยเหลือครูผู้สอนในการประเมินระดับของนักเรียน ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ A1 จะสามารถสื่อสารได้ดังต่อไปนี้

  • แนะนำตัวเองง่าย ๆ และการทักทายเบื้องต้น
  • บอกได้ว่าตัวเองและผู้อื่นมาจากไหน และสามารถอธิบายข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเมืองนั้นๆได้
  • พูดถึงครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน อธิบายรูปลักษณ์และนิสัยส่วนตัวของพวกเขาได้
  • อธิบายการแต่งตัวในระดับพื้นฐานและสอบถามพนักงายขายด้วยคำถามง่าย ๆ
  • พูดคุยเกี่ยวกับอาหารโปรดและสั่งอาหารง่ายๆ สำหรับซื้อกลับบ้าน
  • พูดเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวัน สามารถนัดพบเพื่อนและเพื่อนร่วมงานได้
  • อธิบายสภาพอากาศปัจจุบันและแนะนำกิจกรรมที่สอดคล้องกับการพยากรณ์อากาศ
  • พูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพและอธิบายอาการทั่วไปแก่แพทย์ได้
  • อธิบายที่ตั้งของบ้านและบอกทิศทางได้
  • พูดคุยเกี่ยวกับงานอดิเรกและความสนใจ สามารถวางแผนกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานได้
  • สามารถติดต่อเรื่องพื้นฐานที่โรงแรม รวมถึงการเช็คอินและเช็คเอาท์
  • อธิบายผลิตภัณฑ์ทั่วไป สามารถซื้อสิ่งของในระดับพื้นฐานและส่งคืนสินค้าที่เสียหายคืนได้

ทักษะที่พัฒนาจะขึ้นอยู่กับประเภทของหลักสูตรและนักเรียนแต่ละคน โดยนักเรียนสามารถคาดหวังได้ว่าภาษาอังกฤษจะอยู่ที่ระดับ A1 เมื่อผ่านการเรียน 60 ถึง 80 ชั่วโมง

ระดับต้น (EF SET 31 – 40)

ภาษาอังกฤษระดับ A2 เป็นภาษาอังกฤษระดับที่ 2 ตาม กรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป” หรือ CEFR (Common European Framework of Reference) โดยทั่วไปเรียกระดับนี้ว่า “พื้นฐาน” เหมือนการกล่าวว่า “ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับพื้นฐาน” คำอธิบายอย่างเป็นทางการตามแนวทางของ CEFR สำหรับระดับนี้คือ “ระดับต้น” ซึ่งหมายถึงพื้นฐาน ในระดับนี้นักเรียนสามารถสื้อสารภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐานได้อย่างเชี่ยวชาญและสามารถสื่อสารถึงความต้องการทั่วไปของตนได้

สิ่งที่สามารถทำได้เมื่อภาษาอังกฤษของคุณอยู่ในระดับ A2

ภาษาอังกฤษระดับ A2 เพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษและการเข้าสังคมกับผู้ที่พูดภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามภาษาอังกฤษระดับ A2 ยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกขึ้น ระดับ A2 นีสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่จะมีการจำกัดหัวข้อที่คุ้นเคยของระดับ A2 นอกจากนี้ภาษาอังกฤษระดับ A2 ยังไม่เพียงพอสำหรับการศึกษาเชิงวิชาการหรือการใช้งานผ่านสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษ (โทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิทยุ นิตยสาร เป็นต้น)

ตามเกณฑ์มาตรฐาน CEFR อย่างเป็นทางการ ผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ A2 จะสามารถสื่อสารได้ดังต่อไปนี้

  1. เข้าใจประโยคและสำนวนที่ใช้บ่อยเกี่ยวกับสิ่งรอบตัว (เช่น ข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลของครอบครัว การซื้อของ ภูมิศาสตร์ท้องถิ่น การจ้างงาน)
  2. สามารถสื่อสารเรื่องที่ง่ายและเป็นกิจวัตรที่ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรงและไม่ยุ่งยากเกี่ยวกับสิ่งที่คุ้นเคยหรือทำเป็นประจำ
  3. สามารถอธิบายประวัติของตัวเองอย่างง่าย สภาพแวดล้อมขณะที่พูดและเรื่องที่ต้องโต้ตอบทันที

รายละเอียดเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษระดับ A2

การกำหนดระดับการสื่อสารอย่างเป็นทางการถูกแยกย่อยออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการฝึกสอน การแยกย่อยทักษะอย่างละเอียดนี้สามารถช่วยประเมินระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณ หรือช่วยเหลือครูผู้สอนในการประเมินระดับของนักเรียน ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ A2 จะสามารถสื่อสารทุกอย่างที่นักเรียน ระดับ A1 สามารถทำได้ และจะมีทักษะเพิ่มเติมตังต่อไปนี้

  • ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเพื่อนร่วมงานในสถานที่ทำงาน
  • สามารถบอกเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต รวมถึงกิจกรรมสุดสัปดาห์และเรื่องราวที่น่าสนใจ
  • อธิบายชีวิตในอดีต สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ
  • สามารถสื่อสารเพื่อสร้างความสนุกให้คนในบ้านหรือเมื่อไปเยี่ยมบ้านเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน
  • วางแผนวันหยุด บอกเกี่ยวกับกิจกรรมวันหยุดให้เพื่อนและเพื่อนร่วมงานฟัง
  • พูดเกี่ยวกับธรรมชาติ การเที่ยวชมสัตว์และสถานที่ธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศ
  • พูดเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ชอบและเลือกภาพยนตร์ที่จะดูกับเพื่อน
  • พูดคุยเกี่ยวกับการแต่งตัวและประเภทเสื้อผ้าที่ชอบสวมใส่
  • การสื่อสารพื้นฐานในที่ทำงาน รวมถึงการเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไป
  • อธิบายอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ รับความช่วยเหลือทางการแพทย์และการกรอกใบสั่งยา
  • มีส่วนร่วมกับการเข้าสังคมในแวดวงธุรกิจ การต้อนรับแขกและเข้าร่วมกิจกรรมเครือข่าย
  • เข้าใจและทำข้อเสนอทางธุรกิจขั้นพื้นฐานในสายงานที่เชี่ยวชาญ
  • พูดและอธิบายเกี่ยวกับกฎของเกม

ทักษะที่พัฒนาจะขึ้นอยู่กับประเภทของหลักสูตรและนักเรียนแต่ละคน โดยนักเรียนสามารถคาดหวังได้ว่าภาษาอังกฤษจะอยู่ที่ระดับ A2 เมื่อผ่านการเรียน 200 ชั่วโมง

ระดับกลาง (EF SET 41 – 50)

ภาษาอังกฤษระดับ B1 คือภาษาอังกฤษระดับที่ 3 ตาม กรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ CEFR (Common European Framework of Reference) การกำหนดระดับของภาษาที่แตกต่างกันได้รับการเขียนขึ้นโดยสภายุโรป โดยทั่วไปเรียกระดับนี้ว่า “ระดับกลาง” และเป็นชื่อระดับอย่างเป็นทางการตามเกณฑ์ CEFR ในระดับนี้จะเป็นนักเรียนมีทักษะดีกว่าพื้นฐานแต่ยังไม่สามารถทำงานหรือศึกษาภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญทดสอบ EF SET

สิ่งที่สามารถทำได้เมื่อภาษาอังกฤษของคุณอยู่ในระดับ B1

ภาษาอังกฤษระดับ B1 เพียงพอสำหรับการโต้ตอบกับผู้ที่พูดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย การสื่อสารในสถานที่ทำงาน ผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ B1 จะสามารถอ่านรายงานอย่างง่ายสำหรับหัวข้อที่คุ้นเคยและเขียนอีเมลง่าย ๆ เกี่ยวกับหัวข้อในสายอาชีพของตัวเอง อย่างไรก็ตามระดับ B1 ยังไม่เพียงพอต่อการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ในสถานที่ทำงาน ตามเกณฑ์มาตรฐาน CEFR อย่างเป็นทางการ ผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ B1 จะสามารถสื่อสารได้ดังต่อไปนี้

  1. สามารถเข้าใจจุดประสงค์หลักของที่คุ้นเคยที่ต้องพบบ่อยครั้งในที่ทำงาน โรงเรียน การเดินทางพักผ่อน เป็นต้น
  2. สามารถรับมือกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นขณะเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ
  3. สามารถสื่อสารโดยเชื่อมโยงหัวข้อที่คุ้นเคยหรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องความสนใจส่วนบุคคล
  4. อธิบายประสบการณ์และเหตุการณ์ ความฝัน ความหวัง ความทะเยอทะยาน และการให้เหตุผลเบื้องต้น รวมทั้งสามารถอธิบายเกี่ยวกับความคิดเห็นและแผนการ

รายละเอียดเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษระดับ B1

การกำหนดระดับการสื่อสารอย่างเป็นทางการถูกแยกย่อยออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการฝึกสอน การแยกย่อยทักษะอย่างละเอียดนี้สามารถช่วยประเมินระดับทักษะภาษาอังกฤษของคุณ หรือช่วยเหลือครูผู้สอนในการประเมินระดับของนักเรียน ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษระดับ B1 จะสามารถสื่อสารทุกอย่างที่นักเรียน ระดับ A2 สามารถทำได้ และจะมีทักษะเพิ่มเติมตังต่อไปนี้

  • พูดคุยเรื่องส่วนตัว เป้าหมายด้านอาชีพและความฝันในอนาคต
  • เตรียมการสัมภาษณ์งานและสัมภาษณ์งานที่เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญของคุณ
  • พูดเกี่ยวกับพฤติกรรมการชมโทรทัศน์และรายการโปรดของคุณ
  • อธิบายถึงการศึกษาของคุณและแผนฝึกอบรมในอนาคต
  • พูดคุยเกี่ยวกับเพลงโปรด เพลงที่อยู่ในกระแสและการวางแผนเที่ยวกลางคืนเพื่อฟังดนตรีสด
  • พูดเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง การให้และรับคำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ
  • พูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์และการหาคู่ รวมถึงการพบกับผู้คนผ่านสื่อโซเชียล
  • การเข้าร้านอาหาร สั่งอาหาร ร่วมสนทนาในมื้อเย็นอย่างสุภาพและชำระค่าอาหาร
  • สามารถมีส่วนร่วมในการเจรจาที่เกี่ยวกับสายอาชีพ หากมีคนช่วยอธิบายให้เข้าใจในบางประเด็น
  • พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน รายงานการบาดเจ็บ การอธิบายกฎและข้อบังคับ
  • พูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่สุภาพและการตอบสนองอย่างเหมาะสมต่อพฤติกรรมที่ไม่สุภาพ

ทักษะที่พัฒนาจะขึ้นอยู่กับประเภทของหลักสูตรและนักเรียนแต่ละคน โดยนักเรียนสามารถคาดหวังได้ว่าภาษาอังกฤษจะอยู่ที่ระดับ B1 เมื่อผ่านการเรียน 400 ชั่วโมง

ขอบขอบ GAT Eng Thailand EFSET

Related Articles

2 Comments

  1. มีประโยชน์กับหนูมากเลยค่ะเพราะไม่ค่อยรู้เลยว่ามีการสอบเเบบนี้ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button
error: Content is protected !!