แจกฟรี วิจัยในชั้นเรียน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
แจกฟรี วิจัยในชั้นเรียน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คุณครูหลายท่านอาจจะยังนึกไม่ออกว่าปีการศึกษานี้จะทำวิจัยชั้นเรียนเรื่องอะไร เรารวบรวมงานวิจัย ในชั้นเรียน (วิทยานิพนธ์) คุณครูสามารถนำไปประยุกต์หรือใช้เป็นเอกสารอ้างอิงได้ ท่านสามารถเลือกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ดังนี้
ความหมายของการวิจัย ในชั้นเรียน
หมายถึงการวิจัยที่ทำในบริบทของชั้นเรียน และมุ่งนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนของตน เป็นการนำกระบวนการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาครูให้ไปสู่ความเป็นเลิศ และมีอิสระทางวิชาการ (ทิศนา แขมมณี 2540: 5)
คือกระบวนการแสวงหาความรู้อันเป็นความจริงที่เชื่อถือได้ ในเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในบริบทของชั้นเรียน (สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม 2540: 3)
การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เป็นการศึกษาค้นคว้าของครู ซึ่งจัดว่าเป็นผู้ปฏิบัติงานในชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหา (Problem Solving) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือพฤติกรรมนักเรียนและคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน (ประวิต เอราวรรณ์ 2542: 3)
คือการวิจัยที่ทำโดยครูผู้สอนในห้องเรียน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและนำผลมาใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน เป็นการวิจัยที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว นำผลไปใช้ทันทีและสะท้อนข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของตนเอง ให้ทั้งตนเองและกลุ่มเพื่อนร่วมงาน (สุวิมล ว่องวานิช 2543: 163)
คือกระบวนการแสวงหาความจริงด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ในเนื้อหาที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาความสามารถของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ (ประกอบ มณีโรจน์ 2544: 4)
จากที่กล่าวมานี้สรุปได้ว่า เป็นการวิจัยที่ครูทำเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของผู้เรียนบางคน บางกลุ่ม หรือทั้งหมด ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงการเรียน การสอน และพฤติกรรมของผู้เรียน โดยมีกระบวนการวางแผน ปฏิบัติตามแผน สังเกตผลที่เกิดขึ้น และการสะท้อนความคิด
ครูกับการวิจัย ทำไมครูต้องทำวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยเป็นเครื่องมือ เป็นกระบวนการที่ทุกงานในทุกสาขาอาชีพใช้ในการหาความรู้ หรือข้อค้นพบในการแก้ปัญหา หรือพัฒนางานได้อย่างเป็นระบบน่าเชื่อถือ
งานของครูนับเป็นวิชาชีพชั้นสูงที่ต้องการความเชื่อถือได้ในผลงาน ซึ่งถ้าครูใช้การวิจัยในการพัฒนาหรือแก้ปัญหาการเรียนรู้ของผู้เรียนจะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นได้ในการทำงานของครูและเป็นการประกันคุณภาพลักษณะหนึ่ง
การวิจัยแบบง่าย: บันใดสู่ครูนักวิจัย
หัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 คือ การปฏิรูป การเรียนรู้และผู้มีบทบาทสำคัญที่สุด ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้การปฏิรูปการศึกษาประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ “ครู” หน้าที่โดยตรงของครู คือการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพของแต่ละคน ดังนั้น ครูจะต้องใช้ความพยายามอยู่ตลอดเวลากับการค้นหาวิธีการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุด ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับความสามารถของตนเองซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า การวิจัยเป็นกระบวนการค้นหาความรู้และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบเชื่อถือได้ ดังนั้น ถ้าครูได้นำหลักการสำคัญการวิจัยมาใช้ในการค้นหาวิธีการจัดการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับผู้เรียนจะช่วยหาคำตอบหรือตอบคำถามที่ต้องการได้
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหายแม่บทด้านการศึกษาฉบับแรกของประเทศไทย ได้กล่าวถึงครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา24(5) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมสื่อการเรียนและอำนวย ความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ
มาตรา 30 ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอนสามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้เห็นว่า พ.ร.บ. การศึกษาฉบับนี้ให้ความสำคัญในการกระบวนการวิจัยมาใช้เป็น แนวทางในการพัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูด้วยตนเองซึ่งการวิจัยเป็นกระบวนการที่ต้องมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต การปฏิบัติจริงของครูมิใช่แยกส่วนจากการจัดการเรียนการสอน ดังนั้น การวิจัยและพัฒนา การเรียนการสอนจึงเกิดขึ้นพร้อมกันในการปฏิบัติงานการเรียนการสอนตามปกติของครู
การวิจัยในชั้นเรียนแบบง่าย
เป็นกระบวนการศึกษาค้นคว้าหาคำตอบของปัญหาที่เกิดขึ้น จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือการจัดการเรียนรู้หรือเป็นข้อค้นพบที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้
กับ การเรียนการสอนถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน กล่าวคือ ครู สามารถทำการวิจัยไปพร้อมกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยปกติได้ตลอดเวลา โดยยึดหลักว่า การสอนนำและการวิจัยตาม ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้สถิติชั้นสูง เหมือนกับการวิจัยทางการศึกษาโดยทั่วไปก็ได้ เช่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและการแจกแจงความถี่ เป็นต้น
การวิจัยในชั้นเรียนหรือข้อค้นพบในชั้นเรียน
เป็นวิธีการหนึ่งที่ครูผู้สอนนำมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้ การวิจัยครูทุกคนจะต้องทำในโรงเรียนจนเกิดวงจร PDCA คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นวิธีการที่ซับซ้อนมาก ใช้สถิติสูงและผู้วิจัยต้องมีความรู้สูงๆ จบปริญญาโทหรือปริญญาเอกมาจึงจะทำได้ ในทางปฏิบัติครูผู้สอนทุกคนสามารถวิจัยระดับชั้นเรียนได้ถ้าได้ศึกษาวิธีการเพิ่มเติมจากเอกสารหรือผู้ปฏิบัติจริง ซึ่งการวิจัยครูผู้สอนจะต้องทำควบคู่กันไประหว่างการสอนกับการวิจัย หากเก่งสอนแต่ขาดการวิจัย หรือเก่งวิจัยแต่ขาดการจัดการเรียนการสอนไม่ดี ก็เป็นครูนักวิจัยไม่ได้ การจัดการเรียนการสอนครูที่ประสบผลสำเร็จมักจะทำการวิจัยควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอนหรือเรียกว่า “ครูนักวิจัย”
ความหมาย เป็นการค้นคว้าหาคำตอบอย่างเป็นระบบมีแบบแผน มีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนอาศัยระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์จนเป็นนักวิจัยแยกออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
ลักษณะที่ 1 นักวิจัยทางการศึกษา เป็นการวิจัยที่ละเอียด 5 บท ที่ใช้ศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโทมีการจัดอบรมกันทั่วไป 4 วัน 5 วัน และเมื่ออบรมแล้วไม่มีคนวิจัยไจได้ บ่นปวดหัวไปตามๆ กันเพราะต้องใช้สถิติระดับสูงในที่สุดครูที่สอนในโรงเรียนก็ไม่ประสบผลสำเร็จในการวิจัยได้เลย
ลักษณะที่ 2 ครูนักวิจัย เป็นการวิจัยที่ทำควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จะต้องสอนและวิจัยไปด้วย แต่การวิจัยเป็นการวิจัยที่ครูผู้สอนศึกษาค้นคว้าเพื่อ แก้ปัญหาการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนที่ตนเองรับผิดชอบ ควรมีลักษณะดังนี้
- ครูคนเดียวแก้ปัญหา
- ครูหลายคนร่วมกันแก้ปัญหา
- ครูทั้งโรงเรียนร่วมกันแก้ปัญหา
ขั้นตอนการวิจัยในชั้นเรียนครูแบบง่ายสำหรับครู
เมื่อพบปัญหาหรือเมื่อมีจดหมายเพื่อจะพัฒนาผู้เรียน ควรดำเนินการดังนี้
- กำหนดจุดประสงค์ให้ชัดเจน
- ออกแบบการสอน
- ปฏิบัติการสอน
- บันทึกผลการสอน
- รายงานผลการสอน
การรายงานผลการวิจัยในชั้นเรียนแบบง่าย
การรายงานผลการวิจัยแบบง่ายไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบ เช่นเดียวกันกับการ รายงานผลการวิจัยทางการศึกษาโดยทั่วไป ซึ่งต้องมีการนำเสนอ 5 บท แต่การรายงานผลการวิจัยควรนำเสนอข้อมูลตามสิ่งที่เป็นจริงพร้อมกับมีร่องรอยหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สามารถนำเสนอผลการวิจัยแบบหน้าเดียวหรือแบบ 3-10 หน้าก็ได้ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญในการนำเสนอ ได้แก่
– ที่มาและปัญหา
– วัตถุประสงค์
– วิธีการศึกษา (การออกแบบการสอน)
– ผลการศึกษา (ผลการสอน)
– อภิปรายผล
– ข้อเสนอแนะ
การเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียน
การเขียนรายงานการแบบง่านั้น อาจเลือกเขียนได้ 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่หนึ่งเป็นแบบลูกทุ่ง เน้นรางานการวิจัย ไม่เน้นวิชาการหรือไม่เป็นทางการโดยเขียนใน 3 ส่วนคือ ปัญหาคืออะไร แก้ไขอย่างไรและผลการแก้ไขเป็นอย่างไร
รูปแบบที่สองเป็นแบบลูกกรุง เป็นรายงานการวิจัยกึ่งวิชาการ โดยเขียนสาระสำคัญตามหัวข้อ ต่อไปนี้ คือ ชื่อเรื่องความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการศึกษาตัวแปรที่ศึกษา ประโยชน์ที่คิดว่าจะได้รับวิธีดำเนินการ วิจัยและผลการวิจัยซึ่งอาจมีประเด็นการสะท้อน ความคิดของครูนักวิจัยต่อผลการวิจัยหรือผลการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้้เพิ่มเติมอีกก็ได้
รูปแบบที่สามเป็นแบบสากล เน้นรายงานการวิจัยเชิงวิชาการ (Academic report) ที่มีรูปแบบลักษณะเฉพาะกำหนดไว้แล้วที่สามารถศึกษาเรียนรู้ดูตัวอย่างได้เอง
การพัฒนาผู้เรียนอ่างเป็นระบบด้วยกระบวนการวิจัย แท้จริงก็คือ การจัดลำดับขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการกำหนดปัญหาหรือจุดประสงค์ให้ชัดแจ้งออกแบบแผนการสอน ปฏิบัติการสอน การประเมินผลตามสภาพจริง การบันทึกผลการสรุปรายงานอย่างเป็นระบบซึ่งมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเสมือนหนึ่งเป็นเกลียวเชือกเส้นเดียวกัน โดยครูควรปฏิบัติให้เป็นวิถีชีวิตประจำวันตามปกติ เพื่อพัฒนาผู้เรียนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนส่งผลให้ครูกลายเป็นครูมืออาชีพอย่างแท้จริงตลอดไป
สรุปแนวคิด…สู่การวิจัยแบบง่าย
การทำวิจัย ทำได้ 2 วิธี
- ปัญหาการเรียนการสอน การแก้ ใช้นวัตกรรมสื่อต่างๆ
- ปัญหาด้านพฤติกรรม (Case) การแก้ ใช้กิจกรรม
ลักษณะการทำวิจัยแบบง่าย มี 3 ลักษณะ
- ครูคนเดียวแก้ปัญหา เป็นปัญหาที่ครูพบในห้องเรียนที่ตนเองรับผิดชอบ
- ครูตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไปร่วมกันแก้ปัญหา เป็นปัญหาที่ต้องให้ครูอื่นช่วยเหลือ
- ครูทั้งโรงเรียนร่วมกันแก้ปัญหา เป็นปัญหาที่ครูทุกคนในโรงเรียนเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหา
การวิจัยทำได้ 3 แบบ
- แบบลูกทุ่ง เขียนรายงานสั้นๆ คือ ปัญหา วิธีแก้ไข ผลการแก้ไขแล้วแต่รูปแบบของครูแต่ละคนไม่ต้องแนบหลักฐานเก็บไว้ที่ห้องเรียนวิธีการแก้ปัญหาเป็นกลวิธีของแต่ละคนไม่ต้องการให้ผู้อื่นยอมรับ
- แบบลูกทุ่ง เขียนรายงานในประเด็นหลัก ประมาณ 3-10 หน้าอาจแนบเอกสารประกอบหรือเก็บไว้ที่ห้องเรียน
- แบบสากล เป็นการเขียนรายงานแบบ 5 บท เชื่อถือ ตรวจสอบเป็นสากลได้
การเขียนรายงานวิจัยแบบง่าย น่าจะประกอบด้วย
- ปัญหาที่เกิดขึ้น
- หานวัตกรรมมาแก้
- วัดผลจากนวัตกรรม
- เขียนรายงาน
ดังนั้น การทำวิจัยน ตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24(5) และมาตรา 30 ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เราไปยึดติดกับวิจัย 5 บท ที่เรียนในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ที่ใครๆ เขาว่ายากแต่เปล่าเลยง่ายจริงๆ ขอให้ลงมือทำท่านทำ วิจัยมากมาแล้วแต่ท่านยังไม่รู้จักตนเองว่าได้ทำเนื่องจากกลัวผิด
ดาวน์โหลดไฟล์วิจัยชั้นเรียนทุกกลุ่มสาระ
ภาษาไทย ดาวน์โหลด
ภาษาอังกฤษ ดาวน์โหลด
วิทยาศาสตร์ ดาวน์โหลด
คณิตศาสตร์ ดาวน์โหลด
สังคมศึกษา ดาวน์โหลด
คอมพิวเตอร์ ดาวน์โหลด
นาฏศิลป์ศึกษา ดาวน์โหลด
ดนตรีศึกษา ดาวน์โหลด
พลศึกษา ดาวน์โหลด
สายสนับสนุนการศึกษา
การวัดและประเมินผล ดาวน์โหลด
แนะแนวและจิตวิทยา ดาวน์โหลด
ขอขอบคุณ : ห้องสมุดคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
Draylee Salcovsky
Very interesting points you have remarked, appreciate it for posting.Blog money
I belive its too soon to think about that dapoxetina generico 85, plus AMH 1
After 4 months of letrozole treatment, 45 of patients underwent breast conserving surgery, compared with 35 of patients receiving tamoxifen P buy priligy in usa SPM8 software Welcome Trust Centre for Neuroimaging, London, UK and in house software written in Matlab 12 were used for data preprocessing and statistical analysis
Alternative Remedies For High Cholesterol [url=https://fastpriligy.top/]priligy generic[/url] Radiol Oncol
order cytotec prices 46, 75, 76 Another example is provided by the 10 year toxicity study with norlestrin, an oral contraceptive agent, performed in rhesus monkeys
Поиск в гугле