การใช้ผ้าผูกคอลูกเสือตามกฎกระทรวง
การใช้ผ้าผูกคอลูกเสือตามกฎกระทรวง
การใช้ผ้าผูกคอลูกเสือตามกฎกระทรวง
1. ผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่สังกัดจังหวัด ให้ใช้ผ้าผูกคอจังหวัด ซึ่งเป็นเครื่องบ่งบอกว่า ผู้บังคับบัญชาคนนั้น สังกัดอยู่จังหวัดใด ในกรณีที่ท่านได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ ตั้งแต่ 2 ท่อนขึ้นไปจะใช้ผ้าผูกคอกิลเวลล์ก็ต่อเมื่อท่านลงฝึกกิจกรรมลูกเสือ หรือเป็นวิทยากรการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือทุกระดับ
*ครูที่ได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์และปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้กำกับลูกเสือในโรงเรียนและ ลงฝึกปฏิบัติการฝึกอบรมลูกเสือ ท่านผูกผ้าผูกคอกิลเวลล์นั้นถูกต้องแล้ว ส่วนตำแหน่งรองผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียนและผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียนที่ ไม่มีหน้าที่ฝึกอบรมลูกเสือ เมื่อแต่งเครื่องแบบผู้บังคับบัญชาลูกเสือ อาจใช้ผ้าผูกคอกิลเวลล์ก็ได้โดยอนุโลม
2. ผ้าผูกคอกิลเวลล์ ตามหมวด 4 ข้อ 25 (หน้า 30) นั้น ถือเป็นผ้าผูกคอพิเศษ ไม่ใช้เป็นผ้าผูกคอที่ระบุในการแต่งเครื่องแบบลูกเสือของผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ที่สังกัดจังหวัด ดังนั้น ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาแต่งเครื่องแบบลูกเสือแล้วไม่อยู่ในฐานะผู้ฝึกอบรมลูกเสือหรือเป็นวิทยากร ให้แต่งเครื่องแบบลูกเสือจึงต้องใช้ผ้าผูกคอสังกัดจังหวัด เช่น กรณีเข้ารับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ในกรณีมาร่วมงานวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ วันที่ 1 กรกฎาคม และหรือ วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า 25 พฤศจิกายน เป็นต้น
3. ถ้าผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ในสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ก็ให้ใช้ผ้าผูกคอของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในตำแหน่งต่างๆตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฯ.ข้อ 11 (หน้า 15 ) แต่ในกรณีที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นวิทยากรการฝึกอบรม ต้องเปลี่ยนผ้าผูกคอ เป็นผ้าผูกคอกิลเวลล์
4.ในกรณีที่ประกอบพิธีการทางลูกเสือ เช่นพิธีส่งลูกเสือให้ไปสู่ประเภทที่สูงขึ้น ประกอบพิธีเข้าประจำกองลูกเสือ พิธีมอบเครื่องหมายวูดแบดจ์แก่ผู้บังคับบัญญชาที่มีคุณวุฒิสูงขึ้น หรือการเปิดประชุมกอง การอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ ต้องใช้ผ้าผูกคอกิลเวลล์ สำหรับผู้ที่ได้รับเครื่องหมายวูดแบบดจ์ 2 ท่อนแล้วเท่านั้น
5. มักจะมีคำถามว่า เมื่อใช้ผ้าผูกคอจังหวัด ผ้าผูกคอต้นสังกัดหรือผ้าผูกคอสำนักงานฯ แล้วจะสวมบีด 2 ท่อน, สามท่อน หรือ สี่ท่อนได้หรือไม่ คำตอบคือ สวมได้เพราะเครื่องหมายวูดแบดจ์สองท่อน, สามท่อน และสี่ท่อน เป็นครื่องหมายแสดงคุณวุฒิทางลูกเสือ ไม่ใช่เครื่องหมายบอกสังกัด
การสวมผ้าผูกคอตามสังกัด(ผ้าผูกคอจังหวัด/สำนักงาน) ตามแบบ ลส.13
- วันที่1กรกฏาคม พิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ
- วันที่ 25 พฤศจิกายน พิธีถวายพวงมาลาและถวายราชสดุดีเนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
- ควบคุมลูกเสือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
- เป็นกรรมการหรือส่งประกวดและแข่งขันกิจกรรมทางลูกเสือ
- งานประชุมสัมนาวิชาการ งานกิจกรรมทางลูกเสือที่ไม่ใช่การฝึกอบรม
- เข้าร่วมงานพระราชพิธี รัฐพิธี งานทั่วไป
สวมผ้าผูกคอกิลเวลล์ในโอกาส
- การเปิดประชุมกองลูกเสือ
- การอยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ
- รับเชิญเป็นวิทยากรฝึกอบรมลูกเสือ
- เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมินผลตรวจประเมินขั้น5
สีของผ้าผูกคอลูกเสือบอกอะไรเราได้???
สีของผ้าผูกคอลูกเสือถูกกำหนดตามกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบลูกเสือ พ.ศ.2510 โดยแบ่งสีของผ้าผูกคอตามภาคการศึกษาในอดีตซึ่งมี 12 เขต (น่าจะคล้ายคลึงกับเขตพื้นที่การศึกษาในปัจจุบัน) สำหรับจังหวัดที่เกิดขึ้นใหม่หลังกฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศออกมา มีผู้หลักผู้ใหญ่ได้อธิบายว่าให้ใช้สีของผ้าผูกคอตามจังหวัดที่แยกออกมา
** กรณีเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมลูกเสือในระดับต่างๆ ก็ให้ใช้ผ้าผูกคอลูกเสือเฉพาะในงานชุมนุมเท่านั้น เมื่อเสร็จสิ้นแล้วไม่นิยมนำมาใช้ผูกคอในงานทั่วไป (เก็บเป็นที่ระลึก)
ข้อมูล : กิจกรรมลูกเสือ Scout share
“ผ้าผูกคอลูกเสือ” รู้หรือไม่ มีการแบ่งสีตามเขตการศึกษา การใช้ผ้าผูกคอลูกเสือตามกฎกระทรวง
“ผ้าผูกคอลูกเสือ” ได้ถูกกำหนดตามกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบลูกเสือ พ.ศ. 2510 โดยแบ่งสีของผ้าผูกคอตามภาคการศึกษาในอดีตซึ่งมี 12 เขต ได้แก่
เขตการศึกษา 1 สีเหลือง
- กรุงเทพมหานคร
- นครปฐม
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- สมุทรปราการ
- สมุทรสาคร
เขตการศึกษา 2 สีเขียว - นราธิวาส
- ปัตตานี
- ยะลา
- สตูล
เขตการศึกษา 3 สีตองอ่อน - ชุมพร
- นครศรีธรรมราช
- พัทลุง
- สงขลา
- สุราษฎร์ธานี
เขตการศึกษา 4 สีฟ้า - กระบี่
- ตรัง
- พังงา
- ภูเก็ต
- ระนอง
เขตการศึกษา 5 สีน้ำเงิน - กาญจนบุรี
- ประจวบคีรีขันธ์
- เพชรบุรี
- ราชบุรี
- สมุทรสงคราม
- สุพรรณบุรี
เขตการศึกษา 6 สีแดงเลือดนก - ชัยนาท
- พระนครศรีอยุธยา
- ลพบุรี
- สระบุรี
- สิงห์บุรี
- อ่างทอง
- อุทัยธานี
เขตการศึกษา 7 สีม่วง - กำแพงเพชร
- ตาก
- นครสวรรค์
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
- สุโขทัย
- อุตรดิตถ์
เขตการศึกษา 8 สีบานเย็น - เชียงใหม่
- น่าน
- พะเยา
- แพร่
- แม่ฮ่องสอน
- ลำปาง
- ลำพูน
เขตการศึกษา 9 สีเลือดหมู - ขอนแก่น
- บึงกาฬ
- เลย
- สกลนคร
- หนองคาย
- หนองบัวลำภู
- อุดรธานี
เขตการศึกษา 10 สีชมพู - กาฬสินธุ์
- นครพนม
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด
- อำนาจเจริญ
- อุบลราชธานี
เขตการศึกษา 11 สีแสด - ชัยภูมิ
- นครราชสีมา
- บุรีรัมย์
- ศรีสะเกษ
- สุรินทร์
เขตการศึกษา 12 สีไพล - จันทบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ชลบุรี
- ตราด
- นครนายก
- ปราจีนบุรี
- ระยอง
- สระแก้ว
ขอบคุณที่มา : Facebook ส้มเปรี้ยว ชีวิตคิดบวก